วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

อย่าเชื่อความรู้สึก

เรามักทุ่มใจ ไปอยู่ที่ความรู้สึกนึกคิดของตนเอง

อย่าเชื่อความรู้สึก อย่าเชื่ออารมณ์ อย่ายินดี ยินร้าย

พยายามรักษาใจเย็น ใจดี ใจกลาง ๆ

ปกติเราทำผิดเหมือนกัน เท่ากัน หรืออาจจะมากกว่าเขา

แต่ความรู้สึกของเรามักจะมากกว่าเขา

และไม่เห็นความผิดของตัวเองเลยน่ากลัวจริง ๆ



สังเกตุดู คนที่ขี้บ่น ขี้โมโหว่าคนอื่นทำอะไรไม่ดี ไม่ถูก

ตัวของเขาเอง คิดดี พูดดี ทำดีไหม....ก็อาจจะไม่

เราเองก็เหมือนกัน เมื่อเราเกิดอารมณ์ไม่พอใจ

อย่าเชื่อความรู้สึกให้ระงับอารมณ์เสีย ทำใจเป็นกลาง ๆ

ไว้
:
:



อย่าเชื่อความรู้สึก

อย่าเชื่ออารมณ์

อย่ายินดียินร้าย
:

เรา มักจะมองข้ามความผิดของตนเอง

ถ้าใจเราโกรธ พูดเหมือนกัน พูดคำเดียวกัน นั่นคือโกรธ

ถ้าใจเราดี ใจเขาดี คำพูดของเราเป็นประโยชน์ นั่นคือ

สอน

เมื่อเราอยู่ในสังคม สิ่งที่ต้องระวังคือ หากเห็นใครทำผิด

อย่ายึดมั่นถือมั่นในความรู้สึกและความคิดของตน

อย่ายินดี อย่ายินร้าย ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน



พยายามอบรมใจตนเองว่า

ธรรมชาติของคนเรา มักจะมองข้ามความผิดของตนเอง

ชอบจับผิดแต่คนอื่น




มองเห็นความผิดของคนอื่นเหมือนภูเขา

เห็นความผิดตนเท่ารูเข็ม

ตดคนอื่นเหม็นเหลือทน

ตดตนเองเหม็นไม่เป็นไร

ปากคนอื่นเหม็นเหลือทน

ปากของตนเหม็นไม่รู้สึกอะไร
:

วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ให้กำลังใจตัวเอง. ให้พลังตัวเอง

<๑. อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัว เองกับคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขา มีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง ๒. อย่าคิดทางลบเกี่ยวกับ เรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลก ในแง่ร้าย, ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิด ทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย ๓. อย่าทำอะไร เกินกว่าที่ตัวเองทำได้...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน ๔.. อย่าเอา จริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขา ไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก ๕. อย่า เสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณกับ เรื่องหยุมหยิมหรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณ ผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง ๖. จงฝันตอนตื่นมากกว่าตอน หลับ ๗. ความ รู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว ๘. ลืมเรื่อง ขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามี หรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ ๙. ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...จงอย่าเกลียดคนอื่น ๑๐.ประกาศ สงบศึกกับอดีตให้สิ้น, จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ ๑๑.ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง ๑๒.จงเข้าใจเสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียน รู้ และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตรซึ่งมาแล้วก็หาย ไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอด ชีวิต ๑๓. จง ยิ้มและหัวเราะมากขึ้น ๑๔. คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถก เถียงกับคนอื่นหรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกัน ได้...เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร แล้วเราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้าง เราล่ะ? ๑. อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย ๆ ๒. จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน ๓. จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง ๔. จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6ขวบ ๕. พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน ๖. คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่ เรื่องของคุณสัก หน่อย ๗. งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหา สุขภาพ ดังนั้น, อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็น อันขาด และถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้, ก็ควรจะทำ ดังต่อไปนี้ ๑. ทำสิ่งที่ควรทำ ๒. อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์, ไม่สวย, ไม่น่ารื่นรมย์,จงทิ้ง ไปเสีย...เก็บไว้ทำไม? ๓. เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผล ทุกอย่างได้ ๔. ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด, เดี๋ยว มันก็เปลี่ยน ๕. ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน, จงลุก จากเตียง, แต่ง ตัวและปรากฎตัวต่อหน้าคนที่เราร่วมงาน ด้วย...get up, dress up and show up. ๖. สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง ๗. ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้, อย่าลืมขอบคุณพระเจ้า หรือสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย ๘. เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุข เสมอ...ดังนั้น, ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า และสุดท้ายที่สำคัญที่สุด /b>

วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ใจนำทาง


เพลงใจนำทาง ปาน ธนพร Parn อัลบัม พรหมลิขิต

คืนที่บนฟ้านั้นมืดสนิท ในชั่วโมงที่ชีวิตไม่เหลือไม่มีทางไหนสักทาง
ทุกทิศในใจไร้แสงสว่าง เธอเหลือแค่เพียงเท่านั้นแค่ลมหายใจ
ยอมหยุดเอาไว้หรือก้าวไปต่อ เธอจะถอย เธอจะท้อหรือพร้อม และสู้เพื่อจุดความหวังขึ้นใหม่
ถึงไร้ดวงดาว ถึงมืดเท่าไหร่ ไม่อาจจะดับไฟฝันในใจ ที่พาเธอก้าวข้ามคืนนี้ไป
ดื่มดวงตะวันที่ทอแสงมา
* ชีวิตต้องอยู่เพื่อวันพรุ่งนี้ ชีวิตต้องผ่านนาทีร้ายร้าย
เพื่อให้เราเข้าใจความหมายของคำหนึ่งนั่นคือศรัทธา
สิ่งที่ยากที่สุด มันจะยากที่สุด เมื่อเราหยุดไขว่คว้า
มืดเพียงใดแค่สายตา ถ้าหัวใจมีไฟนำทาง

แพ้ ไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุด แต่ว่าใจที่ชำรุดต้องพร้อม ต้องสู้เพื่อจุดความหวังขึ้นใหม่
ยิ่งเชื่อตัวเอง ยิ่งเชื่อเท่าไหร่ ยิ่งเท่ากับก่อไฟฝันในใจ เพื่อส่องให้เห็นหนทางให้ไป
ก่อนดวงตะวันจะทอแสงมา


วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ธนบัตรเก่าและไม่มีคนเหลียวแลก็มีค่าเสมอ

ธนบัตรเก่าและไม่มีคนเหลียวแลก็มีค่าเสมอ

อาจารย์มหาวิทยาลัยคนนึง เริ่มการสนทนาในชั้นเรียนด้วยการควักธนบัตรใบละ 1,000 บาท ...ออกมาให้นักศึกษาดู

แล้วถามว่า "มีใครอยากได้บ้างไหม"

นักศึกษาทุกคนยกมือขึ้น.. อาจารย์ขยำธนบัตรนั้นจนยับยู้ยี่..แล้วถามอีกครั้งว่า "มีใครยังอยากได้ธนบัตรใบนี้อีกหรือไม่?" ทุกคนยังยกมือขึ้นเหมือนเดิม และอาจารย์ถามต่ออีกว่า "ถ้าสมมุติว่า ธนบัตรใบนี้ถูกทิ้งอยู่บนพื้น แล้วมีคนมาเหยียบย่ำจนสกปรก ยังจะมีใครอยากได้อีกหรือไม่?"

นักศึกษาทุกคนก็ตอบว่ายังอยากได้......

อาจารย์จึงกล่าวสรุปว่า "นี่คือสิ่งมีค่า ที่พวกเธอได้เรียนรู้ในวันนี้ ไม่ว่าจะเธอจะทำอะไรกับธนบัตรใบนี้ มันก็คงยังมีราคา 1,000 บาทเสมอ ชีวิตคนเราก็เช่นเดียวกัน บางครั้ง เราอาจจะถูกทอดทิ้ง ถูกใครต่อใครซ้ำเติม เหยีบย่ำ ถูกขยี้ ยับเยิน เพราะผิดพลาดในการก้าวเดินของชีวิต จนทำให้เธอเกิดความรู้สึกว่าตนเอง ไร้ค่า แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอก็ยังมี คุณค่าของความเป็นคน ไม่ว่าเธอจะสะอาดเอี่ยม หรือยับยู้ยี่เปรอะเปื้อนไปด้วย
>

วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

อย่ามัวแต่น้อยใจ

อย่ามัวแต่น้อยใจ





อย่ามัวแต่น้อยเนื้อต่ำใจ

ปล่อยให้ปมด้อยในชีวิต

กดดันความรู้สึกจนตกต่ำ

อย่าเฝ้าเหยียบย่ำซ้ำเติมตนเอง

จนเหมือนคนไร้ค่า



ขอให้ค้นหาสิ่งดีดี ที่มีอยู่แม้เพียงน้อยนิด

เพื่อนำมาเป็นหลักนำชีวิต ให้ก้าวไปข้างหน้า

เราจะไปได้ดีเท่าที่เราควรจะไป

คนชอบรู้เรื่องชาวบ้านคือคนที่ไ​ม่รู้จักตัวเองดีพอ

ว.วชิรเมธี
ดอกไม้หอมได้บางดอก แต่คนหอมได้ทุกคน ถ้าเป็นคนดี
หอม “พอ”ว.วชิรเมธี

ยิ่งเรา “พอ” เร็วเท่าไหร่ ชีวิตเราก็ยิ่งมีความสุขเร็วเท่​านั้น การรู้จักพอจึงเป็นวิธีเพิ่มควา​มสุขที่ง่ายที่สุด

: ค่าน้ำนมยิ่งใหญ่ใครก็รู้ว.วชิรเมธี
ค่าน้ำนมยิ่งใหญ่ใครก็รู้ แต่ยังสู้เนรคุณพ่อทูนหัว ต้องเทศน์อีกกี่ครั้งจึ่งสร่างม​ัว พ้นเป็นบัวใต้ตมชมตะวัน


คนชอบรู้เรื่องชาวบ้านว.วชิรเมธี
คนชอบรู้เรื่องชาวบ้านคือคนที่ไ​ม่รู้จักตัวเองดีพอ ไม่รู้ว่าเรื่องที่สำคัญสุดคือเ​รื่องของตัวเอง ตนยังมีทุกข์แต่กลับสนุกที่เฝ้า​มองคนอื่น

: คนล้ม 3 แบบว.วชิรเมธี
ในโลกนี้มีคนล้มอยู่ 3 แบบ 1. ล้มแล้วตาย 2. ล้มแล้วเข็ด 3. ล้มแล้วสู้ คุณอยากอยู่ในจำพวกไหนลองคิดดู


: สรรพสิ่งล้วนอิงอาศัยกันว.วชิรเมธี
นิ้ว1นิ้วไม่เป็นมือ คน1คนไม่เป็นบ้าน เจ้าอาวาส1รูปไม่เป็นวัด นายก1คนไม่เป็นประเทศ สรรพสิ่งล้วนอิงอาศัยกันไม่มีใค​รใหญ่อยู่ได้คนเดียวในโลก

let it go ว.วชิรเมธี
เมื่อทำเต็มที่ ทำอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ผลไม่เป็นอย่างที่หวัง จงบอกตัวเองว่า “สุดมือสอยก็ต้องปล่อยมันไป” (let it go)

วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คุณค่าผัก

1. สะเดา (Neem tree) มีเบต้าแคโรทีนสูงบำรุงสายตา เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้นอนหลับ


2. ผักกาดขาว (Chinese white cabbage) ช่วยระบบย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ แก้ไอ มีโฟเลทสูงบำรุงคุณแม่ตั้งครรภ์


3. หัวหอมเล็ก (Shallot) มีน้ำมันหอมระเหยบรรเทาอาการหวัด มีสารฟลาโวนอยด์ต้านมะเร็ง


4. แครอต (Carrot) เบต้าแคโรทีนป้องกันโรคมะเร็ง มีแคลเซียม แพ็กเตต ลดระดับ คอเลสเตอรอลได้


5. หอมหัวใหญ่ (Onion) มีสารฟลาโวนอยด์ช่วยลดอาการของโรคหัวใจ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด


6. คะน้า (Chinese kale) มีแคลเซียมและสารต้านอนุมูลอิสระสูง ป้องกันโรคกระดูกพรุน และมะเร็ง


7. พริก (Chilli) มีแคปไซซินกระตุ้นการขยายตัวของหลอดเลือด ช่วยให้เจริญอาหาร ขับเหงื่อ


8. กระเจี๊ยบเขียว (Okra) ลดความดันโลหิตบำรุงสมอง ลดอาการกระเพาะหรือลำไส้อักเสบ


9. ผักกระเฉด (Water mimosa) ดับพิษไข้ กากใยช่วยระบบขับของเสีย เพิ่มการเผาผลาญสารอาหาร


10. ตำลึง (Ivy gourd) มีวิตามินเอสูง ดีต่อดวงตา เส้นใยจับไนเตรต ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร



11. มะระ (Chinese bitter cucumber) มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส เป็นยาระบายอ่อนๆ น้ำคั้นลดระดับน้ำตาลในเลือด


12. ผักบุ้ง (Water spinach) บรรเทาอาการร้อนใน มีวิตามินเอบำรุงสายตา ธาตุเหล็กบำรุงเลือด


13. ขึ้นฉ่าย (Celery) กลิ่นหอม ช่วยเจริญอาหารมีวิตามินเอ บี และซี บำรุงสมอง ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด


14. เห็ด (Mushroom) แคลอรีน้อย ไขมันต่ำมีวิตามินดีสูง ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม เสริมกระดูกและฟัน


15. บัวบก (Indian pennywort) มีวิตามินบีสูงช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย บำรุงสมองและความจำบำรุงผิวพรรณ ลดอาการอักเสบ


16. สะระแหน่ (Kitchen mint) กลิ่นหอมเย็นของใบให้ความสดชื่น ทำให้ความคิดแจ่มใส แก้ปวดหัว


17. ชะพลู (Cha-plu) รสชาติเผ็ดเล็กน้อย แก้จุกเสียด ขับเสมหะ มีแคลเซียมสูง


18. ชะอม (Cha-om) ช่วยลดความร้อนในร่างกาย ขับลมในลำไส้ มีเส้นใยคอยจับอนุมูลอิสระ


19. หัวปลี (Banana flower) รสฝาด แก้ร้อนใน กระหายน้ำ และบำรุงน้ำนม มีกากใย โปรตีนและวิตามินซีสูง


20. กระเทียม (Garlic) ลดไขมันในเลือดป้องกันหัวใจขาดเลือด ใบกระเทียมมีโฟเลต เหล็กวิตามินซีสูง


21. โหระพา (Sweet basil) น้ำมันหอมระเหยทำให้โล่งจมูก ช่วยระบายลม มีเบต้าแคโรทีนแคลเซียม


22. ขิง (Ginger) บรรเทาอาการหวัดเย็น ลดอาการคัดจมูก รสเผ็ดร้อน แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ


23. ข่า (Galangal) น้ำมันหอมระเหย ช่วยระบบย่อยอาหารขับลม มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา


24. กระชาย (Wild ginger) บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ บำรุงธาตุ มีวิตามินเอและแคลเซียม


25. ถั่วพู (Winged bean) ให้คุณค่าทางอาหารสูงมีโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และสารช่วยย่อยกรดไขมันอิ่มตัว


26. ดอกขจร (Cowslip creeper) กระตุ้นให้รู้รสอาหาร ให้พลังงานสูง ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน


27. ถั่วฝักยาว (Long bean) มีเส้นใย ช่วยลดคอเลสเตอรอล มีวิตามินซี ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็ก บำรุงเลือด


28. มะเขือเทศ (Tomato) มีวิตามินเอสูง วิตามินซี รสเปรี้ยว ช่วยกระตุ้นน้ำย่อย และแก้อาการคอแห้ง


29. กะหล่ำปลี (White cabbage) มีกลูโคซิโนเลต เมื่อแตกตัวจะเป็นสารต้านมะเร็ง และมีวิตามินสูง


30. มะเขือพวง (Plate brush eggplant) ช่วยให้เจริญอาหารและช่วยลดความดันเลือด มีแคลเซียม และฟอสฟอรัส


31. ผักชี (Chinese parsley) ขับลม บำรุงธาตุช่วยย่อยอาหาร มีน้ำมันหอมระเหย แก้หวัด มีวิตามินเอและซีสูง


32. กุยช่าย (Flowering chives) มีกากใยช่วยระบายของเสีย มีธาตุเหล็กช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง


33. หัวไชเท้า (Chinese radish) แก้ไอ ขับเสมหะ เพิ่มภูมิต้านทางโรค มีสารช่วยให้กระเพาะอาหารและลำไส้บีบตัวได้ดี


34. กะเพรา (Holy basil) แก้อาการจุดเสียดแน่นท้อง มีเบต้าแคโรทีนสูง ป้องกันโรคมะเร็งและโรคหัวใจขาดเลือดได้


35. แมงลัก (Hairy basil) ช่วยย่อยอาหารป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ขับลม ขับเหงื่อ


36. ดอกแค (Sesbania) กินแก้ไขช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง เป็นยาระบายอ่อนๆ มีวิตามินเอสูง บำรุงสายตา


และ 37. หญ้าอ่อน กินเพิ่มความคึกคักให้กระชุ่มกระชวย หัวใจสูบฉีด สมองแจ่มใส อายุยืนยาว สำหรับทุกเพศโดยเฉพาะวัยสูงอายุ